ข่าวสารสหกรณ์
  • 22 ม.ค. 2562
 7,010

ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ

ประกาศสหกรณ์ออมทรัพย์กรมป่าไม้ จำกัด
เรื่อง ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีการตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ
ตามวิธีปฏิบัติทางบัญชีที่กรมตรวจบัญชีสหกรณ์กำหนด

ตามที่นายทะเบียนสหกรณ์ โดยกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ได้มีหนังสือกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ที่ กษ 0404/ว53 ลงวันที่ 22 มีนาคม 2561 เรื่อง วิธีปฏิบัติทางบัญชีกรณีสหกรณ์นำเงินไปลงทุน     ในสหกรณ์อื่น กำหนดให้สหกรณ์ออมทรัพย์ที่นำเงินไปลงทุนในหุ้นสหกรณ์อื่นแล้ว ปรากฏว่ามูลค่าหุ้นของสหกรณ์ที่นำเงินไปลงทุนลดต่ำกว่ามูลค่าที่ระบุไว้ในข้อบังคับของสหกรณ์นั้น หรือกรณีสหกรณ์นำเงินไปฝากสหกรณ์อื่นแล้ว ปรากฏว่าไม่สามารถถอนเงินฝากได้ ให้สหกรณ์ออมทรัพย์นั้นดำเนินการพิจารณา ตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ ตามหลักความระมัดระวังให้เพียงพอต่อความเสียหายทางการเงินที่อาจเกิดขึ้น เพื่อให้งบการเงินของสหกรณ์มีความน่าเชื่อถือ และให้สหกรณ์เปิดเผยรายละเอียดข้อมูลในหมายเหตุประกอบงบการเงิน รายละเอียดปรากฏตามหนังสือกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ที่แนบมาท้ายประกาศนี้
            
สหกรณ์ออมทรัพย์กรมป่าไม้ จำกัด ขอเรียนชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ดังนี้

1. สหกรณ์ออมทรัพย์กรมป่าไม้ จำกัด ต้องปฏิบัติตามหนังสือนายทะเบียนสหกรณ์
สหกรณ์ออมทรัพย์กรมป่าไม้ จำกัด และสหกรณ์ออมทรัพย์อื่น ๆ ต้องปฏิบัติตามหนังสือนายทะเบียนสหกรณ์ โดยกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามข้อบังคับสหกรณ์และพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2542 ซึ่งกำหนดให้วิธีปฏิบัติทางบัญชีของสหกรณ์อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกรมตรวจบัญชีสหกรณ์
 
2. สหกรณ์ออมทรัพย์กรมป่าไม้ จำกัด ต้องตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญจำนวนเงินเท่าใด
ตามหนังสือของกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ที่กำหนดไว้ ทำให้งบแสดงฐานะการเงินประจำปี 2561 ปรากฏยอดรายการที่สหกรณ์ต้องตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ ดังนี้

2.1 เงินฝากชุมนุมสหกรณ์ธนกิจไทย จำกัด จำนวน 100 ล้านบาท
2.2 เงินฝากชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์ไทย ไอซีที จำกัด จำนวน 50 ล้านบาท
2.3 หุ้นชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์ไทย ไอซีที จำกัด จำนวน 8.3 ล้านบาท

รวมค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ จำนวน 158.3 ล้านบาท
 
3. ทำไมสหกรณ์จึงนำเงินไปลงทุนกับชุมนุมสหกรณ์ธนกิจไทย จำกัด และชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์ไทย ไอซีที จำกัด
3.1 สหกรณ์ออมทรัพย์กรมป่าไม้ จำกัด มีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้นกว่า 18,000 ล้านบาท โดยนำเงินไปให้สมาชิกกู้จำนวน 8,700 ล้านบาท ส่วนที่เหลือนำไปลงทุนภายนอก ประกอบด้วย ลงทุนนอกขบวนการสหกรณ์จำนวน 4,800 ล้านบาท (ผลตอบแทนเฉลี่ยร้อยละ 4.57 ต่อปี) และลงทุนในขบวนการสหกรณ์ และอื่น ๆ จำนวน 4,500 ล้านบาท (ผลตอบแทนเฉลี่ยร้อยละ 3.94 ต่อปี) ซึ่งสหกรณ์ได้คำนึงถึงการส่งเสริมขบวนการสหกรณ์และหลักการกระจายการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุนที่จะเกิดขึ้นให้น้อยที่สุด สำหรับการลงทุนในหุ้นและเงินฝากชุมนุมสหกรณ์ธนกิจไทย จำกัด และชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์ไทย ไอซีที จำกัด ที่จะต้องตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญตามที่กรมตรวจบัญชีสหกรณ์กำหนดจำนวน 158.3 ล้านบาท นั้น เป็นส่วนหนึ่งของการลงทุนในขบวนการสหกรณ์ ซึ่งคิดเป็น ร้อยละ 0.87 ของสินทรัพย์รวมของสหกรณ์ จึงไม่กระทบต่อสถานะทางการเงินและความมั่นคงของสหกรณ์แต่อย่างใด

3.2 สาเหตุที่สหกรณ์ออมทรัพย์กรมป่าไม้ จำกัด นำเงินไปลงทุนกับชุมนุมสหกรณ์ธนกิจไทย จำกัด และชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์ไทย ไอซีที จำกัด นั้น นอกจากเป็นไปตามหลักการส่งเสริมขบวนการสหกรณ์และหลักการกระจายการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุนแล้ว ยังคำนึงถึงหลักผลตอบแทน โดยให้ผลตอบแทนสูงเฉลี่ยร้อยละ 5.00 ต่อปี และงบแสดงฐานะการเงินในปีที่สหกรณ์นำเงินไปลงทุนนั้น มีฐานะการเงินมั่นคงและผลการดำเนินงานเป็นที่น่าเชื่อถือ ไม่มีข้อสังเกตใด ๆ จากผู้สอบบัญชีและผู้ตรวจสอบกิจการสหกรณ์
            
3.3 ถึงแม้ว่าสหกรณ์จะตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ ของชุมนุมสหกรณ์ธนกิจไทย จำกัด และชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์ไทย ไอซีที จำกัด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า การลงทุนดังกล่าวจะเป็นหนี้สูญ เนื่องจากสหกรณ์ยังได้รับผลตอบแทนเป็นเงินปันผลและดอกเบี้ยเงินฝากจากชุมนุมสหกรณ์ธนกิจไทย จำกัด และชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์ไทย ไอซีที จำกัด เป็นปกติ แต่เหตุที่ต้องตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ นั้น เป็นการปฏิบัติตามมาตรฐานทางบัญชีที่กรมตรวจบัญชีสหกรณ์กำหนด
 
4. สหกรณ์ได้ดำเนินการเพื่อเตรียมความพร้อมและแนวทางแก้ไขปัญหาในการตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ กรณีชุมนุมสหกรณ์ธนกิจไทย จำกัด และชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์ไทย ไอซีที จำกัด อย่างไรบ้าง
4.1 หลังจากที่สหกรณ์ได้ลงทุนกับชุมนุมสหกรณ์ธนกิจไทย จำกัด และชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์ไทย ไอซีที จำกัด รวมทั้งสิ้น 498.3 ล้านบาทแล้ว สหกรณ์ได้ติดตามและวิเคราะห์ผลการดำเนินงานอย่างใกล้ชิด และในปีที่ 3 หลังจากที่สหกรณ์ได้ลงทุน พบว่า งบแสดงฐานะการเงินเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม สหกรณ์จึงเห็นควรลดจำนวนเงินลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม โดยในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2559 สหกรณ์ได้ดำเนินการถอนเงินที่ฝากไว้กับชุมนุมสหกรณ์ธนกิจไทย จำกัด ที่จะครบกำหนดถอนในปลายปี 2561 และปี 2563 รวมเป็นเงิน 250 ล้านบาท ซึ่งเป็นการลดจำนวนเงินที่ลงทุนไว้กับชุมนุมสหกรณ์ธนกิจไทย จำกัด และชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์ไทย ไอซีที จำกัด จากเดิม 498.3 ล้านบาท เหลือจำนวน 248.3 ล้านบาท
            
4.2 ต่อมาสหกรณ์ได้ถอนเงินฝากจากชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์ไทย ไอซีที จำกัด จำนวน 40 ล้านบาท คงเหลือเงินที่ลงทุนไว้กับชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์ไทย ไอซีที จำกัด จำนวน 58.3 ล้านบาท และชุมนุมสหกรณ์ธนกิจไทย จำกัด จำนวน 150 ล้านบาท รวมคงเหลือเงินลงทุนจำนวน 208.3 ล้านบาท
            
4.3 หลังจากนั้นสหกรณ์ได้แจ้งถอนเงินฝากก่อนครบกำหนดจากชุมนุมสหกรณ์ธนกิจไทย จำกัด จำนวน 100 ล้านบาท แต่ได้รับแจ้งจากชุมนุมสหกรณ์ธนกิจไทย จำกัด ว่าไม่สามารถให้ถอนเงินจำนวนดังกล่าวได้ เนื่องจากชุมนุมสหกรณ์ธนกิจไทย จำกัด ได้รับผลกระทบจากการสั่งยกเลิกสหกรณ์เคหะสถานนพเก้ารวมใจ จำกัด จากนายทะเบียนสหกรณ์ และอยู่ระหว่างการจัดทำแผนการแก้ไขปัญหา จึงขอความอนุเคราะห์จากสหกรณ์ออมทรัพย์กรมป่าไม้ จำกัด ให้ชะลอการถอนเงินฝากออกไปอีกระยะหนึ่ง โดยยังให้ผลตอบแทนเงินฝากร้อยละ 4.00 ต่อปี ในระหว่างที่ยังไม่ได้รับเงินฝากคืน
            
4.4 สรุปปัจจุบัน สหกรณ์มีเงินลงทุนที่ต้องตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ ตามหนังสือของ   นายทะเบียนสหกรณ์ โดยกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ดังนี้
ปี 2561
เงินฝากชุมนุมสหกรณ์ธนกิจไทย จำกัด จำนวน 100 ล้านบาท
หุ้นชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์ไทย ไอซีที จำกัด จำนวน 8.3 ล้านบาท
เงินฝากชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์ไทย ไอซีที จำกัด   จำนวน      50         ล้านบาท

รวมตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญปี 2561 จำนวน  158.3 ล้านบาท
               
หมายเหตุ : เงินลงทุนคงเหลือจำนวน 208.3 ล้านบาท สหกรณ์ได้ตั้งค่าเผื่อฯ ในปี 2561 จำนวน 158.3 ล้านบาท และยังไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่ต้องตั้งค่าเผื่อฯ อีก 50 ล้านบาท

5. การตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญดังกล่าว จะกระทบต่อเงินปันผลและเงินเฉลี่ยคืนของสมาชิกหรือไม่
ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา สหกรณ์มีผลการดำเนินงานสามารถจ่ายเงินปันผลและเงินเฉลี่ยคืนให้กับสมาชิก ดังนี้
ปี ผลการดำเนินงาน
เงินปันผล (ต่อปี) เงินเฉลี่ยคืน (ต่อปี)
2558 5.50 % 14 %
2559 5.50 % 14 %
2560 5.50 % 14 %

สำหรับในปี 2561 แม้ว่าสหกรณ์จะต้องตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ จำนวน 158.3 ล้านบาท ตามเกณฑ์ที่นายทะเบียนสหกรณ์ โดยกรมตรวจบัญชีสหกรณ์กำหนด แต่สหกรณ์ได้พยายามแก้ไขปัญหาผลการดำเนินงานให้มีผลกำไรที่สูงขึ้น โดยขายตราสารทางการเงินบางส่วนที่ให้ผลตอบแทนสูง เพื่อนำผลกำไรดังกล่าวมาชดเชยการตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญในระบบบัญชี ทั้งนี้ เพื่อมิให้ผลการดำเนินงานกระทบต่อผลประโยชน์ของมวลสมาชิก โดยเฉพาะอย่างยิ่งมิให้กระทบต่อเงินปันผลและเงินเฉลี่ยคืนที่เป็นความหวังสำคัญที่สมาชิกจะได้รับในทุกสิ้นปีบัญชี
            
ดังนั้น ในรอบผลการดำเนินงานปี 2561 ซึ่งสหกรณ์จะประชุมใหญ่สามัญประจำปี และกำหนดจ่ายเงินปันผลและเงินเฉลี่ยคืน ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2562 สหกรณ์จึงยืนยันที่จะจ่ายเงินปันผลและเงินเฉลี่ยคืนให้กับสมาชิก ดังนี้
 
ปี ผลการดำเนินงาน
เงินปันผล (ต่อปี) เงินเฉลี่ยคืน (ต่อปี)
2561 5.50 % 14 %
 
หมายเหตุ : หากที่ประชุมใหญ่ฯ อนุมัติการจัดสรรกำไรสุทธิประจำปี 2561

สำหรับในปีต่อ ๆ ไป การจ่ายเงินปันผลและเงินเฉลี่ยคืนย่อมขึ้นอยู่กับปัจจัยภายในซึ่งเป็นผลมาจากการดำเนินงานในปีนั้น ๆ ของสหกรณ์ และปัจจัยภายนอกซึ่งอาจเกิดจากความผันผวนและการเปลี่ยนแปลงของสภาวะเศรษฐกิจทำให้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของสหกรณ์ได้ อย่างไรก็ตาม สหกรณ์จะพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะรักษาระดับผลการดำเนินงานหรือผลกำไรให้สามารถจ่ายเงินปันผลและเงินเฉลี่ยคืนเพื่อให้มวลสมาชิกได้รับประโยชน์สูงสุดต่อไป
 
6. หากสหกรณ์ไม่ได้รับคืนเงินลงทุนหรือได้รับคืนเงินลงทุนที่ต้องตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ จะมีผลอย่างไร
การตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญตามนายทะเบียนโดยกรมตรวจบัญชีสหกรณ์กำหนดนั้นเป็นวิธีปฏิบัติทางบัญชีเพื่อเข้มงวดกับงบแสดงฐานะการเงินให้รับรู้ผลการลงทุนที่มีความเสี่ยงแม้เล็กน้อยแต่หากถือเกณฑ์ตามมาตรฐานทางบัญชีแล้ว ให้องค์กรนั้น ๆ ตัดผลกำไรที่มีอยู่ในปัจจุบัน    ตั้งเป็นค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญไว้ก่อน เสมือนว่ามิได้รับคืนเงินลงทุนที่มีความเสี่ยงนั้นแล้ว วิธีปฏิบัติทางบัญชีดังกล่าวจะส่งผลให้เกิดผลดีต่อการดำเนินกิจการขององค์กรนั้น ๆ ในอนาคต ดังนี้
 
6.1 กรณีสหกรณ์ไม่ได้รับคืนเงินลงทุนตามที่สหกรณ์ตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญไว้ ก็จะไม่ส่งผลเสียเพิ่มเติมหรือกระทบต่อผลการดำเนินงานหรือผลกำไรของสหกรณ์ในอนาคตแต่อย่างใดทั้งสิ้น เนื่องจากสหกรณ์ได้ตัดผลกำไรในปีปัจจุบันตั้งเป็นค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญไว้แล้ว

6.2 กรณีสหกรณ์ได้รับคืนเงินลงทุนตามที่สหกรณ์ตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญไว้ ก็จะยิ่งส่งผลดีต่อผลการดำเนินงาน เนื่องจากเงินลงทุนที่ได้รับคืนก็จะถูกบันทึกในระบบบัญชีเป็นรายได้ของสหกรณ์ ทำให้สหกรณ์ได้รับผลกำไรในปีนั้น ๆ เพิ่มขึ้นเท่ากับจำนวนเงินลงทุนที่ได้รับคืน ซึ่งกำไรที่จะเพิ่มขึ้นในปีดังกล่าวนั้นขึ้นอยู่กับนโยบายในปีนั้น ๆ ว่าสหกรณ์จะนำกำไรที่ได้รับเพิ่มนั้นไปจัดสรรเป็นทุนสำรอง หรือทุนรักษาระดับอัตราเงินปันผล หรือทุนสวัสดิการสมาชิก หรือเพิ่มเป็นเงินปันผลหรือเงินเฉลี่ยคืนให้แก่สมาชิกก็ได้
 
7. สหกรณ์ได้ดำเนินการเพื่อป้องกันความเสี่ยงกรณีนี้อย่างไร
ปัจจุบันสหกรณ์ออมทรัพย์กรมป่าไม้ จำกัด มีสินทรัพย์รวมกว่า 18,000 ล้านบาท และเพิ่มมากขึ้นทุก ๆ ปี เงินดังกล่าวสหกรณ์ให้สมาชิกกู้ประมาณร้อยละ 48 ของสินทรัพย์รวม ส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 52 ของสินทรัพย์รวม สหกรณ์ต้องนำไปลงทุนภายนอกทั้งในขบวนการสหกรณ์และนอกขบวนการสหกรณ์ เพื่อให้ได้ผลตอบแทนมาจ่ายเป็นดอกเบี้ยเงินฝาก เงินปันผล และเงินเฉลี่ยคืน ในอัตราที่เหมาะสม การนำเงินไปลงทุนภายนอกดังกล่าวย่อมมีความเสี่ยง
            
ดังนั้น เพื่อมิให้เกิดกรณีดังกล่าวอีกในอนาคต สหกรณ์จึงได้ให้ความสำคัญกับการจัดการและการพัฒนาแผนการบริหารความเสี่ยง โดยในปัจจุบันสหกรณ์ได้ดำเนินการตามแผนบริหารความเสี่ยงครบทั้ง 5 ด้าน ได้แก่ ด้านสภาพคล่อง ด้านตลาด ด้านสินเชื่อ ด้านกลยุทธ์ และด้านปฏิบัติการ รวมทั้งยังได้มีการกำหนดกรอบนโยบายการลงทุนและกำหนดกระบวนการขั้นตอนในการนำเงินไปลงทุนไว้อย่างเข้มงวด ซึ่งมาตรการดังกล่าวทำให้สหกรณ์วิเคราะห์งบการเงินของแหล่งที่จะนำเงินไปลงทุนได้ละเอียดมากขึ้น ทั้งนี้ ยังได้ติดตามผลการดำเนินงานประจำเดือน หากมีการเปลี่ยนแปลง สหกรณ์ก็จะดำเนินการตามความเหมาะสมได้ทันท่วงที เพื่อลดความเสี่ยงให้เหลือน้อยที่สุดเท่าที่สามารถจะกระทำได้
 
8. สหกรณ์ออมทรัพย์กรมป่าไม้ จำกัด เป็นองค์กรที่มั่นคง บริหารตามหลักธรรมาภิบาล
สหกรณ์ขอเรียนชี้แจงให้สมาชิกทราบว่า การตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญตามวิธีปฏิบัติทางบัญชี    ที่นายทะเบียนสหกรณ์ โดยกรมตรวจบัญชีสหกรณ์กำหนดในครั้งนี้ นอกจากจะไม่ส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ที่สมาชิกจะได้รับจากสหกรณ์แล้ว ยังเป็นไปตามหลักความระมัดระวังให้เพียงพอต่อความเสียหายทางการเงิน  ที่อาจเกิดขึ้น และเป็นการเข้มงวดกับงบแสดงฐานะทางการเงินของสหกรณ์เอง ซึ่งจะเป็นผลดีในการส่งเสริมเสถียรภาพและความมั่นคงในการบริหารจัดการของสหกรณ์ในระยะยาวต่อไป
              
สหกรณ์ออมทรัพย์กรมป่าไม้ จำกัด ขอยืนยันว่า สหกรณ์ยังคงยึดมั่นการบริหารงานภายใต้หลักการ วิธีการ และอุดมการณ์สหกรณ์ รวมทั้งภายใต้แนวคิดนโยบายคุณภาพ คือ “เป็นองค์กรที่มั่นคง บริการอย่างมีมาตรฐาน บริหารตามหลักธรรมาภิบาล”



UploadImage
UploadImage
UploadImageUploadImage
UploadImageUploadImageUploadImageUploadImageUploadImageUploadImage
UploadImage
UploadImage
เอกสาร