ข่าวสารสหกรณ์
  • 27 ส.ค. 2558
 4,175

แก้ไขเพิ่มเติม ระเบียบเงินกู้ใหม่ มีผลบังคับใช้ 1 กันยายน 2558

 
แก้ไขเพิ่มเติมระเบียบเงินกู้ใหม่
มีผลบังคับใช้วันที่ 1 กันยายน  2558

                     
           ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์กรมป่าไม้  จำกัด ชุดที่ 38 ครั้งที่ 9  เมื่อวันที่  6  สิงหาคม  พ.ศ.2558 ได้กำหนดระเบียบสหกรณ์ออมทรัพย์กรมป่าไม้  จำกัด  ว่าด้วยการให้เงินกู้แก่สมาชิก  พ.ศ. 2558 โดยระเบียบนี้ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่  1  กันยายน 2558 เป็นต้นไป  สาระสำคัญที่มีการเปลี่ยนแปลง มีดังนี้
           
                                                         เงินกู้สามัญ

            สำหรับเงินค่าหุ้นนั้น ผู้กู้จะต้องมีหุ้นตามรายละเอียดดังนี้

            -  จำนวนเงินกู้น้อยกว่า  1,000,000 บาท     ผู้กู้ต้องมีหุ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ  20  ของจำนวนเงินกู้

            -  จำนวนเงินกู้ตั้งแต่      1,000,000 บาท  ขึ้นไป   ผู้กู้ต้องมีหุ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ  25  ของจำนวนเงินกู้
             
                            
 หลักประกันสำหรับเงินกู้ และ จำนวนผู้ค้ำประกัน

                      การให้เงินกู้ทุกประเภทนั้น ต้องทำสัญญาเงินกู้ สัญญาค้ำประกันตามแบบที่สหกรณ์กำหนด

                 -  เงินกู้เพื่อเหตุฉุกเฉิน  ต้องมีจำนวนไม่เกินร้อยละ  90  ของมูลค่าหุ้นที่ผู้กู้มีอยู่ในสหกรณ์

              -  เงินกู้สามัญ  ให้มีหลักประกัน ดังนี้

                   1)  เงินและสิทธิประโยชน์ที่สมาชิกมีอยู่ในสหกรณ์ หรือ

                   2)  อสังหาริมทรัพย์ มาจำนองเป็นหลักประกันเต็มจำนวนเงินกู้ ต้องไม่เกินร้อยละ 80 แห่งมูลค่าอสังหาริมทรัพย์นั้น  สำหรับเงื่อนไข และการให้เงินกู้ ให้เป็นไปตามมติคณะกรรมการดำเนินการ หรือ

                   3)  บุคคลเป็นผู้ค้ำประกัน
                         กรณียอดรวมเงินกู้สามัญทั้งหมด มีจำนวนเกินกว่ามูลค่าหุ้น นอกจากใช้เงินและสิทธิประโยชน์ที่สมาชิกมีอยู่ในสหกรณ์เป็นหลักประกันแล้ว ต้องมีสมาชิกเป็นผู้ค้ำประกันดังนี้

                        1. จำนวนเงินกู้สามัญ และจำนวนผู้ค้ำประกัน

                               -  จำนวนเงินกู้สามัญไม่เกิน 300,000 บาท  ต้องมีผู้ค้ำประกันไม่น้อยกว่า  2 คน แต่ไม่เกิน 10 คน

                        -  จำนวนเงินกู้สามัญเกิน 300,000 บาท  แต่ไม่เกิน 1,000,000 บาท ต้องมีผู้ค้ำประกันไม่น้อยกว่า  4 คน แต่ไม่เกิน 10 คน

                        -  จำนวนเงินกู้สามัญเกิน1,000,000 บาท  ต้องมีผู้ค้ำประกันไม่น้อยกว่า  6 คน แต่ไม่เกิน 10  คน

                         2.  ผู้ค้ำประกันต้องมิใช่สมาชิกที่เป็นคู่สมรสของผู้กู้

                    3.  สมาชิกคนหนึ่งจะเป็นผู้ค้ำประกันสำหรับผู้กู้มากกว่า 10 คน ในเวลาเดียวกันไม่ได้ โดยผู้ค้ำประกันต้องรับผิดต่อสหกรณ์ตามจำนวนเงินกู้ที่ตนได้ค้ำประกันไว้ทั้งหมด

                    4.  ผู้ค้ำประกันคนใดขาดจากสมาชิกภาพ หรือมีเหตุที่คณะกรรมการเงินกู้เห็นว่า  ไม่สมควรหรือไม่อาจที่จะเป็นผู้ค้ำประกันต่อไป ผู้กู้ต้องจัดให้สมาชิกอื่นซึ่งคณะกรรมการเงินกู้เห็นสมควร  เข้าเป็นผู้ค้ำประกันแทนคนเดิม ให้เสร็จภายในระยะเวลา 90 วัน  นับจากวันที่สหกรณ์มีหนังสือแจ้งไป  หากไม่สามารถดำเนินการได้  อาจถูกระงับเงินกู้ทุกประเภท  และอาจถูกหักเงินกู้สามัญส่วนที่เกินกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าหุ้น  ภายในเวลา ที่คณะกรรมการเงินกู้เห็นสมควร

                                                 เงินกู้พิเศษเพื่อการเคหะ
                          เพิ่มจำนวนเงินกู้ และลดเพดานเงินเดือนคงเหลือ
 

               จำนวนเงินกู้พิเศษเพื่อการเคหะ  ซึ่งอนุมัติให้แก่สมาชิกผู้กู้คนหนึ่งนั้น  ย่อมสุดแต่คณะกรรมการเงินกู้เห็นสมควรทั้งนี้ไม่เกิน 8,000,000 บาท  การพิจารณาจำนวนเงินกู้ จะคำนึงถึงลักษณะของที่อยู่อาศัย คุณสมบัติของผู้กู้ การลงทุนร่วมของผู้กู้ ความสามารถในการชำระหนี้ของผู้กู้และมูลค่าหลักประกันดังนี้

                    1) หลักประกัน ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ห้องชุด

                         -  จำนวนเงินกู้ไม่เกิน 2,500,000  บาท ให้กู้ได้ไม่เกินร้อยละ 90  ของราคาประเมินหลักประกัน

                  -  จำนวนเงินกู้เกิน 2,500,000  บาท  แต่ไม่เกิน 5,000,000 บาท ให้กู้ได้ไม่เกินร้อยละ 80  ของราคาประเมินหลักประกัน

                  -  จำนวนเงินกู้เกิน 5,000,000  บาท  ให้กู้ได้ไม่เกินร้อยละ 70  ของราคาประเมินหลักประกัน

                         2) หลักประกัน ซึ่งเป็นบ้านพร้อมที่ดิน

                              -  จำนวนเงินกู้ไม่เกิน 3,000,000  บาท ให้กู้ได้ไม่เกินร้อยละ 95  ของราคาประเมินหลักประกัน

                  -  จำนวนเงินกู้เกิน 3,000,000  บาท  แต่ไม่เกิน 5,000,000 บาท ให้กู้ได้ไม่เกินร้อยละ 90  ของราคาประเมินหลักประกัน

                  -  จำนวนเงินกู้เกิน 5,000,000  บาท  ให้กู้ได้ไม่เกินร้อยละ 85  ของราคาประเมินหลักประกัน  

                สำหรับเงินกู้พิเศษเพื่อการเคหะ  มีการกำหนดงวดและการผ่อนชำระดังนี้

                      1)  กรณีไม่มีผู้ร่วมชำระหนี้ ให้ผู้กู้ส่งชำระหนี้ได้ไม่เกินอายุ  70 ปี ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการเงินกู้พิจารณาถึงเงินได้รายเดือนคงเหลือของผู้กู้ทั้งก่อนและหลังเกษียณอายุราชการแล้ว เป็นเกณฑ์ในการให้กู้ด้วย

                  2)  กรณีไม่มีผู้ร่วมชำระหนี้และมีเงินได้รายเดือนไม่พอหัก ณ ที่จ่าย  ให้สามารถกู้ได้ไม่เกินร้อยละ 50 ของมูลค่าหลักประกัน ทั้งนี้จำนวนเงินงวดที่ไม่พอหักจะต้องไม่เกินกึ่งหนึ่งของจำนวนเงินที่หักได้ ณ ที่จ่าย และการชำระหนี้เงินงวดส่วนที่ไม่พอหัก สหกรณ์จะหักจากบัญชีเงินฝากของผู้กู้ โดยผู้กู้ต้องมีเงินฝากไว้ในบัญชีจำนวนไม่น้อยกว่า 3 เท่าของจำนวนเงินที่ไม่พอหัก ณ  ที่จ่าย ในแต่ละงวด ตลอดอายุสัญญาเงินกู้

                          สำหรับเงินกู้พิเศษเพื่อการเคหะ ผู้กู้จะต้องมีเงินได้รายเดือน รวมคงเหลือดังนี้

                     1)   จำนวนหนี้รวมไม่เกิน 750,000 บาท จะต้องมีเงินได้รายเดือนของผู้กู้คงเหลือไม่น้อยกว่า 2,500 บาท

 

                 2)   จำนวนหนี้รวมเกิน 750,000  แต่ไม่เกิน 1,000,000 บาท จะต้องมีเงินได้รายเดือนของผู้กู้คงเหลือไม่น้อยกว่า 3,500 บาท

                 3)   จำนวนหนี้รวมเกิน 1,000,000  แต่ไม่เกิน 1,500,000 บาท จะต้องมีเงินได้รายเดือนของผู้กู้คงเหลือไม่น้อยกว่า 4,500 บาท

                 4)   จำนวนหนี้รวมเกิน 1,500,000  แต่ไม่เกิน 2,000,000 บาท จะต้องมีเงินได้รายเดือนของผู้กู้คงเหลือไม่น้อยกว่า 6,000 บาท
                 5)   จำนวนหนี้รวมเกิน 2,000,000  แต่ไม่เกิน 3,000,000 บาท จะต้องมีเงินได้รายเดือนของผู้กู้คงเหลือไม่น้อยกว่า 8,000 บาท

                 6)   จำนวนหนี้รวมเกิน 3,000,000  แต่ไม่เกิน 4,000,000 บาท จะต้องมีเงินได้รายเดือนของผู้กู้คงเหลือไม่น้อยกว่า 12,000 บาท

                 7)   จำนวนหนี้รวมเกิน 4,000,000  แต่ไม่เกิน 5,000,000 บาท จะต้องมีเงินได้รายเดือนของผู้กู้คงเหลือไม่น้อยกว่า 16,000 บาท

                 8)    จำนวนหนี้รวมเกิน 5,000,000 บาท  จะต้องมีเงินได้รายเดือนของผู้กู้คงเหลือไม่น้อยกว่า 20,000 บาท

               สำหรับเงินกู้ทุกประเภท ผู้กู้ต้องมีเงินได้รายเดือนคงเหลือไม่น้อยกว่า 2,500 บาท