สหกรณ์หมื่นล้าน

สหกรณ์หมื่นล้าน วิชิต สนธิวณิช
กรรมการทำหน้าที่ผู้จัดการ
สรรพสิ่งเชื่อมโยง คน เทคโนโลยี ธรรมชาติ ธรรมะ ชีวิตน่าจะสมดุล... แต่การบริโภคอย่างไร้ขีดจำกัดในยุคเทคโนโลยีครองโลก เศรษฐกิจ การเมืองที่ผันแปรทุกเวลา องค์กรการเงินที่มุ่งเน้นการออมและชีวิตที่มีเศรษฐกิจพอเพียงนำทางอย่างสหกรณ์ ต้องต่อสู้กับ กัปดักทางสังคม หลุมพรางการตลาด เข็มทิศในการดำเนินชีวิต นโยบายทางการเมือง น้อยคนนักที่จะก้าวผ่านหลุมพรางเหล่านี้...และเพื่อนำพาสมาชิกสหกรณ์ให้รอดพ้น ต้องอาศัยกลวิธี กลยุทธ์นานา ผ่านการเชื่อมโยงจากสรรพสิ่งที่อยู่รอบตัว ผ่านกาล ผ่านเวลา ผ่านการระดมความคิด ฝ่าลมฝนพายุแห่งจิตใจสามัญของคนทำงานรุ่นแล้วรุ่นเล่า …มาร่วม 30 ปีแห่งการก่อเกิด
จากทุนดำเนินเริ่มต้น “15,570บาท”ในปี 2521 กลายมาเป็น “10,092,150,200.96” บาท ในปี 2555 จากสมาชิกเริ่มต้น 167 คน เป็นสมาชิก 13,221 คน สมาชิกสมทบอีก 11,701 คน รวมสมาชิกและสมาชิกสมทบ 24,902 คน ในวันนี้ นั่นเป็นบทพิสูจน์การก้าวผ่านกาลเวลาที่ต้องต่อสู้ทั้งภายในและสิ่งเร้าภายนอกที่โหมกระหน่ำสู่ใจของสมาชิก เป็นการปะทะกันอย่างยิ่งใหญ่ของจิตและกัปดักทางสังคมโลก
จากสหกรณ์ที่มีเงินทุนเพียง “หมื่นบาท” เป็นสหกรณ์ออมทรัพย์ขนาดใหญ่ที่มีสินทรัพย์รวมหรือทุนดำเนินการถึง “หมื่นล้านบาท”
จำนวนเงินอาจมิใช่สาระสำคัญ ก่อนที่จะก้าวสู่อนาคต ที่ท้าทายมากยิ่งขึ้น เราจึงควรเหลียวหลัง..แลหน้า ย้อนอดีต มองความเป็นมาของสหกรณ์ในยุคต่าง ๆ เพื่อศึกษาพัฒนาการ ความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ๆ เพื่อประโยชน์สำหรับการกำหนดทิศทางและบทบาทของสหกรณ์ต่อไปในอนาคต
ยุคที่ 1 การก่อร่างสร้างตัว (ปี 2521 – 2536)
15 ปีแห่งการหยั่งรากลึก
สหกรณ์ออมทรัพย์กรมป่าไม้ จำกัด ได้รับการจดทะเบียนเป็นสหกรณ์เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2521 โดยมีสมาชิก 167 คน ทุนดำเนินงาน 15,570 บาท ในสมัยท่านอธิบดีถนอม เปรมรัศมีเป็นอธิบดีกรมป่าไม้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแหล่งการออมทรัพย์และการกู้ยืมเงิน และเพื่อเป็นแหล่งสวัสดิการสำหรับสมาชิกที่เป็นข้าราชการ พนักงานสังกัดกรมป่าไม้
สหกรณ์เริ่มดำเนินการเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2522 การดำเนินของสหกรณ์ในช่วงแรกเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยให้บริการเงินกู้ฉุกเฉิน และเงินกู้สามัญ โดยจะรับคำขอกู้จากสมาชิกระหว่างวันที่ 1 – 15 ของเดือนและจะได้รับเงินกู้ประมาณเดือนถัดไป หรือบางครั้งอาจต้องรอคิวนาน 2 – 3 เดือน ทั้งนี้ เพราะยังไม่มีการการรับเงินฝากจากสมาชิก เงินที่จะนำให้สมาชิกกู้ในระยะนี้ทั้งหมด จึงนำมาจากค่าหุ้นของสมาชิก และค่าเก็บหนี้จากสมาชิกที่กู้ไปก่อนหน้านี้มาให้สมาชิกรายใหม่กู้ต่อไป
สหกรณ์มีทุนดำเนินการครบ 1 ล้านบาทแรก (1,380,481.04 บาท) ในปี 2525 เมื่อดำเนินงานได้ ประมาณ 4 ปี มีจำนวนสมาชิกเพิ่มเป็น 419 ราย
จากทุนดำเนินเริ่มต้น “15,570บาท”ในปี 2521 กลายมาเป็น “10,092,150,200.96” บาท ในปี 2555 จากสมาชิกเริ่มต้น 167 คน เป็นสมาชิก 13,221 คน สมาชิกสมทบอีก 11,701 คน รวมสมาชิกและสมาชิกสมทบ 24,902 คน ในวันนี้ นั่นเป็นบทพิสูจน์การก้าวผ่านกาลเวลาที่ต้องต่อสู้ทั้งภายในและสิ่งเร้าภายนอกที่โหมกระหน่ำสู่ใจของสมาชิก เป็นการปะทะกันอย่างยิ่งใหญ่ของจิตและกัปดักทางสังคมโลก
จากสหกรณ์ที่มีเงินทุนเพียง “หมื่นบาท” เป็นสหกรณ์ออมทรัพย์ขนาดใหญ่ที่มีสินทรัพย์รวมหรือทุนดำเนินการถึง “หมื่นล้านบาท”
จำนวนเงินอาจมิใช่สาระสำคัญ ก่อนที่จะก้าวสู่อนาคต ที่ท้าทายมากยิ่งขึ้น เราจึงควรเหลียวหลัง..แลหน้า ย้อนอดีต มองความเป็นมาของสหกรณ์ในยุคต่าง ๆ เพื่อศึกษาพัฒนาการ ความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ๆ เพื่อประโยชน์สำหรับการกำหนดทิศทางและบทบาทของสหกรณ์ต่อไปในอนาคต
ยุคที่ 1 การก่อร่างสร้างตัว (ปี 2521 – 2536)
15 ปีแห่งการหยั่งรากลึก
สหกรณ์ออมทรัพย์กรมป่าไม้ จำกัด ได้รับการจดทะเบียนเป็นสหกรณ์เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2521 โดยมีสมาชิก 167 คน ทุนดำเนินงาน 15,570 บาท ในสมัยท่านอธิบดีถนอม เปรมรัศมีเป็นอธิบดีกรมป่าไม้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแหล่งการออมทรัพย์และการกู้ยืมเงิน และเพื่อเป็นแหล่งสวัสดิการสำหรับสมาชิกที่เป็นข้าราชการ พนักงานสังกัดกรมป่าไม้
สหกรณ์เริ่มดำเนินการเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2522 การดำเนินของสหกรณ์ในช่วงแรกเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยให้บริการเงินกู้ฉุกเฉิน และเงินกู้สามัญ โดยจะรับคำขอกู้จากสมาชิกระหว่างวันที่ 1 – 15 ของเดือนและจะได้รับเงินกู้ประมาณเดือนถัดไป หรือบางครั้งอาจต้องรอคิวนาน 2 – 3 เดือน ทั้งนี้ เพราะยังไม่มีการการรับเงินฝากจากสมาชิก เงินที่จะนำให้สมาชิกกู้ในระยะนี้ทั้งหมด จึงนำมาจากค่าหุ้นของสมาชิก และค่าเก็บหนี้จากสมาชิกที่กู้ไปก่อนหน้านี้มาให้สมาชิกรายใหม่กู้ต่อไป
สหกรณ์มีทุนดำเนินการครบ 1 ล้านบาทแรก (1,380,481.04 บาท) ในปี 2525 เมื่อดำเนินงานได้ ประมาณ 4 ปี มีจำนวนสมาชิกเพิ่มเป็น 419 ราย
การดำเนินงานผ่านไป 10 ปี ในปี 2531 สหกรณ์จึงมีทุนดำเนินการครบ 10 ล้านบาทแรก (11,680,919.80 บาท) จำนวนสมาชิกเพิ่มเป็น 1,984 ราย เท่ากับว่าสหกรณ์มีทุนหมุนเวียนเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละประมาณ 1 ล้านบาท
ในระยะแรกสหกรณ์มีเงินทุนหมุนเวียนน้อย ทำให้การให้บริการเงินกู้แก่สมาชิกมีความล่าช้า เนื่องจากสหกรณ์บริหารเงินทุนด้วยทุนเรือนหุ้นจากสมาชิกเพียงอย่างเดียว
ในปี 2534 สหกรณ์จึงเริ่มเปิดให้มีบริการรับฝากเงิน “ออมทรัพย์พิเศษ” จากสมาชิกเป็นครั้งแรก นับเป็นก้าวย่างที่สำคัญสำหรับสหกรณ์ออมทรัพย์ ในการระดมเงินออมจากสมาชิกครบทั้ง 2 ด้าน คือ “การออมภาคบังคับ” ด้วยทุนเรือนหุ้น และ “การออมภาคความสมัครใจ” คือการรับเงินฝากจากสมาชิก แม้ว่าในปีแรกสหกรณ์จะไม่สามารถระดมเงินฝากได้มากนัก กล่าวคือมีเงินฝากเพียง 4 ล้านบาทเศษ จากทุนดำเนินงานทั้งหมดประมาณ 48 ล้านบาท แต่ก็นับเป็นก้าวย่างสำคัญที่ทำให้สหกรณ์มีทุนดำเนินการเพิ่มมากขึ้นในถัดมา
ปี 2535 หลังจาก สหกรณ์ดำเนินงานครบ 14 ปี สหกรณ์จึงมีทุนดำเนินการครบ 100 ล้านบาทแรก (120,603,446.43 บาท) โดยมีเงินฝากจากสมาชิกประมาณ 54 ล้านบาทเศษ เมื่อทุนดำเนินงานเพิ่มขึ้น ทำให้การให้บริการเงินกู้รวดเร็วขึ้นเหลือประมาณ 7 – 15 วัน ขณะเดียวกันในปีนี้สหกรณ์เริ่มจัดให้มี “โครงการประกันชีวิตกลุ่ม” สำหรับสมาชิก เพื่อเป็นสวัสดิการและลดภาระการค้ำประกันเงินกู้สำหรับสมาชิก จำนวนสมาชิกจึงเพิ่มเป็น 6,031 ราย
ในปี 2536 หรือเมื่อสหกรณ์ดำเนินงานมาครบ 15 ปี สหกรณ์มีทุนดำเนินงานเพิ่มเป็น 196 ล้านบาทเศษ มีจำนวนสมาชิก 7,840 ราย
จะเห็นว่าใน 15 ปีแรกของสหกรณ์ (2521 – 2536) ทุนดำเนินงานของสหกรณ์เพิ่มขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งเป็นธรรมดาของการจัดตั้งองค์กรใด ๆ ก็ตามกว่าจะตั้งตัวได้ในช่วงแรกต้องใช้เวลานานพอสมควร ยุคนี้เป็นยุคของการก่อร่างสร้างตัว เหมือนกับการปลูกต้นไม้ที่ต้นกล้าที่ค่อยเติบโตและเริ่มหยั่งรากลึกและเริ่มยืนต้น กล้าท้าแดดลมฝนได้ด้วยตนเอง
ข่าวล่าสุด

ถอนเงินสหกรณ์ [ไม่ใช้บัตร!!] ที่ตู้กรุงไทย และกสิกรไทย ทั่วประเทศ
25 มิ.ย. 2568
833

ประกาศ สอบราคาจัดทำประกันภัยสำหรับเงิน
25 มิ.ย. 2568
158
สอ.สาธารณสุขตรัง จำกัด มาศึกษาดูงาน วันศุกร์ที่ 20 มิ.ย. 68
20 มิ.ย. 2568
215

ประกาศ โอนเงินรอจ่ายคืน เงินรับโอน เข้าทุนสำรอง
01 ก.ค. 2568
30

ประกาศ สอบราคาการจัดทำประกันภัยอาคารสำนักงานสหกรณ์
25 มิ.ย. 2568
209