ประกันชีวิต! เพิ่มเบี้ยประกันใหม่..คุ้มครองสูงกว่าเดิม
ประกันชีวิตกลุ่มคืออะไร?
เมื่อท่านสมัครเป็นสมาชิกกับสหกรณ์ ท่านจะได้รับความคุ้มครองจากประกันชีวิตกลุ่ม ซึ่งประกันชีวิตกลุ่ม คือการทำประกันภัยแบบหลายคนภายใต้กรมธรรม์เดียวกัน (กรมธรรม์ในนามของสหกรณ์ออมทรัพย์กรมป่าไม้ จำกัด) โดยนิยมทำให้กับบุคลากรในองค์กรหรือหน่วยงาน ที่ทำประกันชีวิตกลุ่มเท่านั้น ซึ่งจะแตกต่างจากประกันชีวิตส่วนบุคคล ที่ซื้อผ่านตัวแทนประกัน และความคุ้มครองครอบคลุมเฉพาะผู้ซื้อกรมธรรม์เพียงผู้เดียว
สมาชิกทุกคนรับความคุ้มครอง ฟรี!! ในเบี้ยประกันเริ่มต้น เดือนละ 35 บาท
**ทันทีที่บริษัทประกันตอบรับการทำประกันชีวิต
เงื่อนไขการสนับสนุนค่าเบี้ยประกันและความคุ้มครอง ดังนี้
1.ในกรณีที่สมาชิกเลือกทำประกันชีวิตกลุ่มค่าเบี้ยประกันเริ่มต้นที่ 35 บาท สหกรณ์จ่ายสนับสนุนค่าเบี้ยประกันชีวิตกลุ่มให้กับสมาชิกเดือนละ 35 บาท ความคุ้มครองเฉพาะกรณีเสียชีวิตทั่วไป 100,000 บาท เสียชีวิตเนื่องจากอุบัติเหตุ 150,000 บาท จนถึงอายุ 70 ปี
2.ในกรณีที่สมาชิกเลือกทำประกันชีวิตกลุ่มค่าเบี้ยประกันเกินกว่า 35 บาท สหกรณ์จ่ายสนับสนุนค่าเบี้ยประกันชีวิตกลุ่มให้กับสมาชิกเดือนละ 50 บาทหรือปีละ 600 บาทต่อคน จนถึงอายุ 70 ปี
(กรณีที่สมาชิกทำประกันชีวิตกลุ่มในอัตราเบี้ยเกินกว่า 270 บาท เมื่อสมาชิกอายุครบ 66 ปี แล้ว อัตราเบี้ยประกันชีวิตกลุ่มของท่านจะลดลงเหลือ 270 บาท เท่านั้น)
การกู้สามัญต้องทำประกันชีวิตตามวงเงินหนี้สามัญรวมกันทุกประเภท
ตารางแสดงอัตราเบี้ยประกันและความคุ้มครอง
หนี้สามัญรวมทุกประเภท |
อัตราเบี้ยประกัน |
วงเงินคุ้มครองเสียชีวิตทั่วไป |
วงเงินคุ้มครองเสียชีวิตอุบัติเหตุ |
ไม่เกิน 100,000 |
35 (ฟรี!) |
100,000 |
150,000 |
100,001 - 500,000 |
270 |
500,000 |
1,000,000 |
500,001 - 800,000 |
470 |
800,000 |
1,600,000 |
800,001 - 900,000 |
540 |
900,000 |
1,800,000 |
900,001 - 1,000,000 |
600 |
1,000,000 |
2,000,000 |
1,000,001 - 1,500,000 |
900 |
1,500,000 |
3,000,000 |
1,500,001 - 1,600,000 |
960 |
1,600,000 |
3,200,000 |
1,600,001 – 1,700,000 |
1,020 |
1,700,000 |
3,400,000 |
1,700,001 – 1,800,000 |
1,080 |
1,800,000 |
3,600,000 |
1,800,001 – 1,900,000 |
1,140 |
1,900,000 |
3,800,000 |
1,900,001 – 2,000,000 |
1,200 |
2,000,000 |
4,000,000 |
2,000,001 – 2,100,000 |
1,260 |
2,100,000 |
4,200,000 |
2,100,001 – 2,200,000 |
1,320 |
2,200,000 |
4,400,000 |
2,200,001 – 2,300,000 |
1,380 |
2,300,000 |
4,600,000 |
2,300,001 – 2,400,000 |
1,440 |
2,400,000 |
4,800,000 |
2,400,001 – 2,500,000 |
1,500 |
2,500,000 |
5,000,000 |
2,500,001 – 2,600,000 |
1,560 |
2,600,000 |
5,200,000 |
2,600,001 – 2,700,000 |
1,620 |
2,700,000 |
5,400,000 |
2,700,001 – 2,800,000 |
1,680 |
2,800,000 |
5,600,000 |
2,800,001 – 2,900,000 |
1,740 |
2,900,000 |
5,800,000 |
2,900,001 – 3,000,000 |
1,800 |
3,000,000 |
6,000,000 |
** การสมัครเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเบี้ยประกัน ต้องรอบริษัทประกัน ตอบรับภายใน 45 วัน**
การทำประกันชีวิตเพิ่มเติมและทำประกันชีวิตให้กับบุคคลในครอบครัว
สมาชิกมีสิทธิทำประกันชีวิตเพิ่มเติม ตามหนี้รวมทุกประเภท ผลประโยชน์ความคุ้มครอง ดังนี้
- สมาชิกที่อายุ 66 ปีขึ้นไป รับทำประกันชีวิตกลุ่มที่อัตราเบี้ยประกัน 270 บาท เท่านั้น
- สมาชิกที่สมัครประกันใหม่ จะต้องมีอายุไม่เกิน 65 ปี
- สมาชิกที่อายุครบ 65 ปี ก่อนวันที่ 1 พฤษภาคม 2559 และประกันสิ้นสุดความคุ้มครองไปแล้ว ไม่สามารถสมัครทำประกันใหม่ได้
เอกสารประกอบการสมัครประกันชีวิต
สำหรับสมาชิก
- แบบฟอร์มใบคำขอเอาประกันชีวิตกลุ่ม ดาวน์โหลดแบบฟอร์ม คลิ๊ก
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
- หนังสือตั้งผู้รับโอนประโยชน์
สำหรับคู่สมรสสมาชิก
- แบบฟอร์มใบคำขอเอาประกันชีวิตกลุ่ม ดาวน์โหลดแบบฟอร์ม คลิ๊ก
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้สมัครทำประกัน
- สำเนาทะเบียนบ้านผู้สมัครทำประกัน
- สำเนาทะเบียนสมรส
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของสมาชิก
- หนังสือตั้งผู้รับโอนประโยชน์
สำหรับบุตรสมาชิก
- แบบฟอร์มใบคำขอเอาประกันชีวิตกลุ่ม ดาวน์โหลดแบบฟอร์ม คลิ๊ก
- สำเนาสูติบัตร (กรณีบุตรอายุไม่ครบ 15 ปี)
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้สมัครทำประกัน
- สำเนาทะเบียนบ้านผู้สมัครทำประกัน
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของสมาชิก
- หนังสือตั้งผู้รับโอนประโยชน์
สมาชิกมีสิทธิทำประกันชีวิตเพิ่มให้กับบุคคลในครอบครัวดังนี้
- บุตรสมาชิกอายุ 14 วัน - 25 ปี กรณีสมัครก่อน 1 พฤษภาคม 2559 รับทำประกันชีวิตที่อัตราเบี้ยประกัน 470 บาท เท่านั้น ประกันสิ้นสุดความคุ้มครองเมื่อสมาชิกอายุ 70 ปี
- คู่สมรสสมาชิกอายุ 66 ปี รับทำประกันชีวิตกลุ่มที่อัตราเบี้ยประกัน 270 บาท เท่านั้น ประกันสิ้นสุดความคุ้มครองเมื่อสมาชิกอายุ 70 ปี
- กรณีสมัครประกันใหม่ คู่สมรสสมาชิกจะต้องมีอายุไม่เกิน 65 ปี
- คู่สมรสสมาชิกไม่สามารถทำประกันชีวิตกลุ่ม อัตราเบี้ยประกันชีวิตที่สูงกว่าสมาชิกได้
- ความคุ้มครองของคู่สมรสสมาชิกจะสิ้นสุดเมื่อมีอายุครบ 70 ปี แต่หากสมาชิกอายุครบ 70 ปี ก่อนคู่สมรส การทำประกันชีวิตกลุ่มจะสิ้นสุดความคุ้มครองพร้อมสมาชิก ผลประโยชน์ความคุ้มครอง ดังนี้
อัตราเบี้ยประกัน |
วงเงินคุ้มครอง |
เสียชีวิตอุบัติเหตุ |
270 |
500,000 |
1,000,000 |
470 |
800,000 |
1,600,000 |
ประกันชีวิตจะมีผลคุ้มครอง เมื่อใด?
เมื่อสหกรณ์นำส่งค่าเบี้ยประกันให้บริษัทประกันชีวิต หรือมีการเรียกเก็บค่าเบี้ยประกันตามใบเสร็จรับเงิน และบริษัทตอบรับการประกันชีวิตของท่านแล้ว สามารถตรวจสอบผ่าน Application Forestco-op 4.0 หรือ Forest co-op online
เมื่อสมาชิกเสียชีวิต ต้องทำยังไงบ้าง?
กรณีเสียชีวิต เนื่องจากเจ็บป่วย
1. เตรียมเอกสารประกอบการขอรับสินไหม
- สำเนาใบมรณะบัตร
- สำเนาบัตรประจำประชาชนผู้เสียชีวิต
- สำเนาทะเบียนบ้านที่ ประทับตรา “ตาย”
- หนังสือรับรองการตายจากโรงพยาบาล (กรณีเสียชีวิตที่โรงพยาบาล)
- ใบรับแจ้งการตาย (กรณีเสียชีวิตที่บ้าน) พร้อมแนบสำเนาบัตรข้าราชการของผู้ใหญ่บ้านหรือกำนันและสำเนาทะเบียนบ้านของผู้ใหญ่บ้านหรือกำนัน
2. ส่งเอกสารมาที่สหกรณ์ออมทรัพย์กรมป่าไม้ จำกัด สหกรณ์ออมทรัพย์กรมป่าไม้ จำกัด ตู้ปณ. 169 ปณศ. จตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900
กรณีเสียชีวิต เนื่องจากอุบัติเหตุ
1. เตรียมเอกสารประกอบการขอรับสินไหม
- สำเนาใบมรณะบัตร
- สำเนาบัตรประจำประชาชนผู้เสียชีวิต
- สำเนาทะเบียนบ้านที่ ประทับตรา “ตาย”
- รายงานประจำวันเกี่ยวกับคดี
- ใบรายงานชันสูตรพลิกศพ
หมายเหตุ เอกสารประกอบการขอรับเงินสินไหมขอจำนวน 2 ชุด พร้อมเซ็นรับรองสำเนาทุกฉบับ
2. ส่งเอกสารมาที่สหกรณ์ออมทรัพย์กรมป่าไม้ จำกัด สหกรณ์ออมทรัพย์กรมป่าไม้ จำกัด ตู้ปณ. 169 ปณศ. จตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900
บริษัทประกันปฏิเสธจ่ายสินไหมกรณีใดบ้าง ?
- กรณีร่วมโครงการประกันชีวิตกับสหกรณ์ครั้งแรก เมื่อผู้ทำประกันเป็นโรคร้ายแรง และเสียชีวิตภายในระยะเวลา 1 ปีแรก ที่เข้าร่วมโครงการประกันชีวิตกับสหกรณ์ ซึ่งการตรวจสอบประวัติทางการรักษาของแพทย์แล้ว พบว่า เป็นโรคร้ายแรง โดยปกปิด หรือแถลงโรคอันเป็นเท็จ
- กรณีเพิ่มวงเงินคุ้มครองชีวิต เมื่อผู้ทำประกันเป็นโรคร้ายแรงมาก่อน และเสียชีวิตภายในระยะเวลา 1 ปีแรก ที่เข้าร่วมโครงการเพิ่มผลประโยชน์คุ้มครอง ซึ่งการตรวจสอบประวัติทางการรักษาของแพทย์ แล้วพบว่า เป็นโรคร้ายแรงมาก่อนการเพิ่มผลประโยชน์คุ้มครอง บริษัทจะจ่ายเงินสินไหมในวงเงินทุนประกันเดิม
การประกันชีวิตจะมีผลยกเลิกและสิ้นสุดการคุ้มครองชีวิต
เมื่อสหกรณ์ไม่สามารถเรียกเก็บค่าเบี้ยประกันชีวิตเดือนใดเดือนหนึ่งได้ หรือสมาชิกอายุครบอายุ 70 ปี (กรณีบัตรประจำตัวประชาชนไม่ระบุวันที่และเดือนเกิด ให้ถือว่าเกิดวันที่ 1 มกราคม ของปีนั้น)
บุตรที่มีอายุ 25 ปี จะสิ้นสุดความคุ้มครองทันที
ยกเว้นกรณีบุตรสมาชิกสมัครทำประกันตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2559 เป็นต้นไป ประกันสิ้นสุดความคุ้มครองเมื่อสมาชิกอายุครบ 70 ปี
สิทธิการรับสินไหมกรณีสมาชิกสูญหาย
ขั้นตอนการดำเนินการ
1. เมื่อสมาชิกที่ทำประกันชีวิตสูญหายให้ทายาทแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ
2. ทายาทต้องแจ้งให้สหกรณ์ทราบภายใน 30 วัน นับจากวันแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยแนบเอกสาร ดังนี้
- สำเนาใบแจ้งความจากสถานีตำรวจ
- สำเนาเอกสารประจำตัวของสมาชิกผู้สูญหาย
3. ทายาทยังคงต้องชำระค่าเบี้ยประกันให้บริษัทประกันเสมือนสมาชิกยังมีชีวิตอยู่จนกว่าจะมีคำสั่งศาลว่าเป็นบุคคลสาบสูญ
4. คณะกรรมการดำเนินการพิจารณารับทราบการสูญหายของสมาชิกผู้นั้นเพื่อดำเนินการต่อไป
5. สหกรณ์ต้องนำส่งสำเนาบันทึกรายงานการประชุมคณะกรรมการดำเนินการครั้งที่รับทราบการสูญหายของสมาชิก พร้อมสำเนาใบแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเอกสารที่เกี่ยวข้องให้บริษัทประกันชีวิต ภายใน 30 วัน นับจากวันที่คณะกรรมการดำเนินการมีมติรับทราบ
6. เมื่อครบ 5 ปี หรือตามที่กฎหมายกำหนด ทายาทต้องยื่นคำร้องขอต่อศาล เพื่อให้ศาลมีคำสั่งให้สมาชิกผู้นั้นเป็นบุคคลสาบสูญ
7. เมื่อศาลมีคำสั่งให้สมาชิกผู้นั้นเป็นบุคคลสาบสูญ ให้ทายาทนำสำเนาคำสั่งศาลดังกล่าวยื่นต่อสหกรณ์ ซึ่งสหกรณ์จะได้ดำเนินการเพื่อขอรับสินไหมต่อไป
ประกันชีวิตกลุ่มคุ้มครองทุพพลภาพสิ้นเชิงถาวร และการสูญเสียอวัยวะ
การทุพพลภาพสิ้นเชิงถาวร หมายถึง ทุพพลภาพถึงขนาดไม่สามารถประกอบหน้าที่การงานใด ๆ ในอาชีพประจำหรืออาชีพอื่น ๆ ได้โดยสิ้นเชิงตลอดไป และการทุพพลภาพสิ้นเชิงถาวรนั้นต้องเกิดขึ้นต่อเนื่องเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 180 วัน และกรณีต่อไปนี้ถือว่าเป็นการทุพพลภาพสิ้นเชิงถาวรด้วย คือ
1. สูญเสียมือ สองข้าง หรือเท้าสองข้าง หรือสายตาสองข้างโดย
2. สูญเสียมือหนึ่งข้าง หรือเท้าหนึ่งข้าง
3. สูญเสียมือหนึ่งข้างและสายตาหนึ่งข้าง
4. สูญเสียเท้าหนึ่งข้างและสายตาหนึ่งข้าง
การสูญเสียตา หมายถึง ตาบอดสนิท และไม่มีทางรักษาให้หายได้ตลอดไป
การสูญเสียมือหรือเท้า หมายถึง การถูกตัดออกจากร่างกายตั้งแต่ข้อมือ หรือข้อเท้าและให้หมายรวมถึงหรือสูญเสียสมรรถภาพในการใช้งานของอวัยวะนั้นโดยสิ้นเชิงถาวร
เมื่อสมาชิกทุพพลภาพสิ้นเชิงถาวร หรือสูญเสียอวัยวะ ให้ทายาทแจ้งต่อสหกรณ์และจัดส่งเอกสารต่าง ๆให้สหกรณ์ภายใน 180 วัน นับจากวันที่ทุพพลภาพสิ้นเชิงถาวร